ยิ่งก้ม…ยิ่งปวดร้าว…ยิ่งชา…ยิ่งอ่อนแรง
ในยุคนี้ที่มือถือ อาจจะถือว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ทุกคนต้องมี และแน่นอนเวลาใช้มือถือ ทุกคนต้องก้มคอ จึงกลายเป็นยุคสังคมก้มหน้า แล้วในวันๆหนึ่ง เราใช้เวลาก้มคอดูมือถือกันนานเท่าไหร่? การก้มคอนานๆจะมีผลกระทบอะไรบ้าง? คุณมีอาการปวดตึงคอบ่าไหล่ ปวดร้าวลงแขน แขนชา ปวดหัว บ้างไหม?
Text Neck Syndrome
เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการก้มคอเป็นเวลานานๆโดยเฉพาะการใช้มือถือคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปเป็นเวลานานๆเนื่องจากเวลายิ่งก้มคอน้ำหนักจะยิ่งเพิ่มมากดลงบริเวณกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่มากขึ้น
ยิ่งก้ม...ยิ่งปวด
ปกติเวลาเราอยู่ในท่าคอตรง จะมีน้ำหนักมากดบริเวณคอบ่าไหล่ 4.5 กิโลกรัม แต่เมื่อเวลาก้มคอมากขึ้น นำ้หนักที่ลงมากดจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ก้มคอ 45 องศา น้ำหนักที่มากดบริเวณคอบ่าไหล่ จะเพิ่มขึ้นกว่าปกติถึง 5 เท่า
ทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เส้นประสาท และส่งผลทำให้เกิดการผิดรูปของกระดูกสันหลังได้
อาการ
- ปวดบริเวณคอบ่าไหล่สะบัก อาจจะปวดตื้อๆ ปวดเจ็บ เป็นบางจุด หรือ ปวดทั่วทั้งคอ ก้มแล้วยิ่งปวด
- กล้ามเนื้อเกร็ง บริเวณคอบ่าไหล่สะบัก มักจะร่วมกับอาการปวด ทำให้รู้สึกไม่สามารถขยับคอหรือก้มคอได้ปกติ
- อาการชาร้าวไปหัวไหล่ ร้าวลงแขน หรือ ร้าวขึ้นท้ายทอย
- กล้ามเนื้อคอบ่าไหล่อ่อนแรง
- ปวดศีรษะ ปวดท้ายทอย ร้าวไปปวดขมับ มึนงง เวียนศีรษะ ตาพร่ามัว
ถ้าปล่อยทิ้งไว้เรื้อรัง จะส่งผลทำให้เกิดกระดูกคอคดผิดรูป กระดูกคอเสื่อม หมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ หายใจไม่อิ่มไม่เต็มปอดได้
ป้องกัน...ก่อนสายเกินแก้
- พยายามยกโทรศัพท์ให้อยู่ในระดับสายตา
- ยืดกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่ 15 นาที/วัน
- พยายามขยับคอ หมุนคอ ทุก 1 ชั่วโมงโดยทำข้างละ 10 ครั้ง
- ควรมีการพักเบรคเล็กน้อย ทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อลดแรงที่กดกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่ โดยเฉพาะคนที่นั่งทำงานนานๆ เช่น พนักงานออฟฟิศ ใช้คอมพิวเตอร์นานๆ
การรักษา
- ทานยาแก้ปวด คลายกล้ามเนื้อ ทายาแก้ปวด ประคบอุ่นบริเวณคอบ่าไหล่
- กายภาพบำบัด เช่น นวดกดจุด ยืดกล้ามเนื้อ ใช้เครื่องมือกายภาพเพื่อลดอาการปวดและคลายกล้าม