โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท หรือ โรคสลักเพชรจม  (Piriformis syndrome)

ชีวิตคนทำงานในปัจจุบันนี้คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ส่วนใหญ่จะนั่งทำงานหรือขับรถอยู่บนท้องถนนเป็นเวลานานๆ จนแทบไม่มีเวลาออกกำลังกายเป็นประจำ อาจจะทำให้เกิดอาการปวดบริเวณก้นร้าวลงขา ซึ่งอาจเป็นอาการของ “โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทได้”

โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท เกิดจากกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิส (Piriformis) หรือ สลักเพชร ที่อยู่บริเวณก้นกับสะโพกไปกดทับเส้นประสาทขาไซอาติก (Sciatic) ที่อยู่ใกล้กัน ส่งผลทำให้รู้สึกปวดบริเวณก้นร้าวไปยังขา จึงมีผู้ใช้ชื่อโรคกล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาทขาว่า “Piriformis syndrome”

อาการแสดงโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

  • ปวดหลังช่วงล่าง
  • ปวดและชาที่ก้นร้าวไปยังขาด้านหลัง
  • ปวดบริเวณสะโพกขณะที่นั่ง หรือขณะมีกิจกรรม เช่น ออกกำลังกาย วิ่ง หรือ ขึ้นบันได
  • ในกรณีที่อาการเป็นรุนแรงมาก อาการปวดบริเวณก้นและขาจะทำให้เจ็บปวดมากจนอาจไม่สามารถที่จะทำงานหรือใช้ชีวิตปกติได้เช่น การนั่ง หรือ การขับรถเป็นเวลานานๆ

สาเหตุ

  • การเคลื่อนไหวร่างกายส่วนล่างผิดท่า
  • นั่งเป็นเวลานานๆ
  • การออกกำลังกายหนักเกินไ
  • การวิ่งหรือการทำกิจกรรมที่ใช้ขาซ้ำๆอย่างต่อเนื่อง
  • การยกของหนัก
  • การขึ้นบันไดสูงๆ

การรักษา

  • พักและหลีกเลี่ยงกิจกรรมซึ่งจะกระตุ้นให้อาการกำเริบ
  • ประคบเย็นและประคบร้อนที่บริเวณก้นหรือขา : ประคบเย็น15 – 20 นาที สลับประคบร้อน 15-20 นาที ทำซ้ำทุกๆ 2- 3 ชั่วโมง
  • ยาแก้ปวด
  • การทำกายภาพบำบัด เช่น อัลตร้าซาวน์ กระตุ้นไฟฟ้า กระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็ก ( Peripheral Magnetic Stimulation )
  • การออกกำลังกายและยืดกล้ามเนื้อบริเวณหลังช่วงล่าง สะโพก ต้นขา

การป้องกัน

  • ให้อบอุ่นกล้ามเนื้อและยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย
  • เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทีละน้อย
  • หลีกเลี่ยงการวิ่งบนทางลาดชันหรือพื้นผิวที่ขรุขระ
  • พยายามขยับตัวบ่อยๆ ไม่ให้นั่งหรือนอนติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป

ประสบการณ์จริงจากผู้เข้ารับการรักษาโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท